ศึกมวยชิงแชมป์โลกที่กรุงริยาห์ด ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อคืนวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา  หรือเวลาประมาณ 02.00 น. (ช้าวันที่ 17 พ.ย. ตามเวลาไทย  “จ่านูน” น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท หรือ ธรรมนูญ นิยมตรง แชมป์โลกรุ่นมินิมั่มเวต (105 ปอนด์)  แชมป์โลกคนเดียวของไทยวัย 34 ปี  ขึ้นชกล้มแชมป์ ออสการ์ คอลลาโซ แชมป์โลกรุ่นเดียวกันขององค์กรมวยโลก (WBO) นักสัญชาติสหรัฐ สายเลือดเปอร์โตริกัน วัย 27 ปี ซึ่งนอกจากเดิมพันเข็มขัดแชมป์โลกของ WBA กับ WBO ผู้ชนะไฟต์นี้ยังได้รับเข็มขัดแชมป์เกียรติยศของ The Ring ด้วย

  ปรากฏว่า คอลลาโซ เร็วกว่า ออกหมัดได้คมและแม่นกว่า น็อคเอาท์ เห็นได้ชัด จนถึงยก 6 จึงต่อย น็อคเอาท์ ลงไปนับ 8 และยก 7 ตะบันร่วงอีก 2 ครั้ง จนกรรมการจึงสั่งยุติการชกในยก 7 นี้  ทำให้ คอลลาโซ ขนะน็อกยก 7 ได้ครองแชมป์ โลกทั้งWBA และ WBO พร้อมเข็มขัดของ The Ring ทันที ส่วนฝั่ง น็อคเอาท์ เสียตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นมินิมัjมเวต WBA ที่ครองมาตั้งแต่ปี 2016 รวมถึงแพ้บนสังเวียนมวยสากลอาชีพ พร้อมโดน็อกเป็นครั้งแรกในชีวิต หลังต่อยมา 26 ไฟต์ ชนะรวมดมา 25 ครั้ง และทำให้ตอนนี้เมืองไทยไม่มีนักมวยสากลอาชีพ เป็นแชมป์มวยโลกแล้ว

  หลังชก น็อคเอาท์ ยอมรับว่า คอลลาโซ เก่ง  เร็ว กว่า โดยฝากถึงแฟนมวยว่า “ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ส่งมาครับ วันนี้ยอมรับว่าสู้ไม่ได้ช้ากว่าเขา และก็ขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง

แชมป์เขาเก่งมาก เนื้อตัวของแชมป์โครตสุด ไว้ว่ากันใหม่ครับผมเองยังมึน ๆ อยู่เลย ขนาดทำใจมาล่วงหน้าอยู่บ้างรู้ว่างานนี้โครตยาก แต่ก็ยังรู้สึกภูมิใจที่ได้ชกกับแชมป์ที่แข็งแกร่งที่สุด”