ในความรู้สึกผม หลังจากที่เราไม่ได้ไปฟุตบอลโลก 2026 แน่นอนแล้ว ขั้นตอนต่อไป ที่ใกล้ที่สุดคือการไปรอบสุดท้าย เอเชียน คัพ มาซาทาดะ อิชิอิ กล่าวไว้ในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

เราจะมีการเปลี่ยนแปลงเจนเนเรชั่นของนักเตะด้วย เราต้องสรรหานักเตะใหม่ มาเปลี่ยนแปลงรุ่น ในรอบต่อไปของฟุตบอลโลก

นี่เป็นวิธีคิดของผม เราต้องแข็งแกร่งเป็นทีมระดับเอเชีย นั่นคือการคาดการณ์และการวางแผนของผม

โรดแมปของ อิชิอิ ในการสร้างทีมช้างศึกกันใหม่ โดยเปลี่ยนวิกฤติ จากตกรอบบอลโลก เป็นโอกาสในการเปิดประตูบานใหม่

การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แบบ พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน แต่เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

รายชื่อนักเตะทีมชาติไทย ชุดฟีฟ่าเดย์มีนาคม จะเห็นความพยายามในการลดอายุนักเตะลง ทำให้รุ่นเก๋าหลายรายไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ อาทิ พรรษา เหมวิบูลย์(34 ปี), เฉลิมศักดิ์ อักขี(30 ปี), สุพรรณ ทองสงค์(30 ปี)

สารัช อยู่เย็น(32 ปี), ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์(31 ปี), ธนบูรณ์ เกษารัตน์(31 ปี) เร่งฟอร์มขึ้นมา แต่ก็ไม่มีชื่อ

หรือแม้แต่ ธีรศิลป์ แดงดา ในวัยที่จะครบ 37 ปีในเดือนมิ.ย.นี้ แม้ตอนนี้จะมีปัญหาสภาพร่างกาย แต่ก็ไม่แน่ว่า ถึงเขาฟิตแล้ว อิชิอิ จะเรียกติดทีมหรือไม่

นักเตะอายุมากๆ ที่ถูกเรียกเข้ามา อยู่ในหมวดที่ จำเป็นต้องมีไว้ก่อน ขาดไป อาจเหมือนขาดใจ เพราะบุคลากรในแต่ละตำแหน่ง ยังขึ้นมาทดแทนไม่ได้แบบใกล้เคียง

ที่ยังมี เซ็นเตอร์ เอเลียส ดอเลาะ (31 ปี), ศุภนันท์ บุรีรัตน์(31 ปี) กระทั่ง เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ (31 ปี) ยังจำเป็นต้องเป็นหลัก ประคองน้องๆ อยู่ ส่วน พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี อิชิอิ อาจมองว่า ยังพอประคองน้องๆได้

อุ้ม ธีราทร บุญมาทัน ในวัย 35 ปี ด้วยสไตล์การเล่น ตอนนี้ก็ยังไปไหว แต่สำหรับเอเชียนคัพ 2027 หรือ 2 ปีข้างหน้าก็น่าสนใจ ถึงสภาพร่างกาย จิตใจ

ในทีมนี้เราจะได้เห็นกลุ่มอายุ 20 กลางๆ ลงไปถึง ต้นๆ นิโคลัส มิคเกลสัน, สุภโชค สารชาติ, เบน เดวิส, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, พาตริก กุสตาฟ์สัน, ปรเมศย์ อาจวิไล, โจนาธาร เข็มดี, อิรฟาน ดอเลาะ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ซึ่ง 2 รายหลังอายุแค่ 22 ปี ไหนจะมี ศุภชัย ใจเด็ด, เอกนิษฐ์ ปัญญา ไล่ไปถึง เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, กฤษดา กาแมน

กลุ่มเหล่านี้ มีโอกาสล่าฝันฟุตบอลโลก อย่างน้อยก็อีก 2 ครั้ง หรืออาจจะ 3 ครั้งด้วยซ้ำ

บางคน ตอนนี้อาจยังไม่ดี แต่ก็ต้องให้โอกาส

การตกรอบบอลโลกของทีมชาติไทย คือความปวดใจ แต่มันก็คือโอกาสของรุ่นใหม่ เพราะเชื่อว่าถ้ายังเข้ารอบ นักเตะรุ่นใหญ่ก็จะยังถูกเรียกติดทัพ

แนวทางของ อิชิอิ นั้น เชื่อว่าไม่ใช่แค่เอเชียนคัพ แต่มองระยะไกลถึง คัดบอลโลก หนหน้าเลยทีเดียว ดังนั้นทีมชาติไทยจากนี้ (และก่อนหน้านี้) เป็นต้นไป จะค่อยๆ เปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่เรื่อยๆ

อาจน่าใจหาย อาจยังอาลัยอาวรณ์ และอาจมีเสียงค้านว่า ยังไหวนะ, ใครว่าหมดแล้ว ไม่จริง

แต่ในโลกของความจริง เราต้องคิดล่วงหน้าไปอีก 2-3 ปีเป็นอย่างต่ำ

ขวัญใจคนเดิม กำลังหลักเดิมๆ ที่ผูกพันธ์กันมาหลายปี จะค่อยๆ หายไปทีละคน สองคน

ทิ้งเลือดเก่า ถ่ายเลือดไปสู่รุ่นใหม่

เพื่อความฝันเดิม ที่รอให้เป็นจริงกันมานานเหลือเกิน.