นักกีฬาอีสปอร์ตระดับโปรเพลเยอร์ชาวไทย ณัชพล มาตราช (พล) หรือที่รู้จักในชื่อว่า sScary ประกาศรีไทร์จากการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพ เกม VALORANT หลังจากที่เขาได้โลดแล่นอยู่ในวงการมาเกือบ 5 ปี พร้อมกับประสบความสำเร็จทั้งในรายการใหญ่ต่าง ๆ ทั่วเอเชีย รวมถึงผลงานส่วนตัวที่ทำให้ชื่อของเขากลายเป็นที่จดจำในภูมิภาคเป็นที่เรียบร้อย

เขาให้เหตุผลในการวางมือในครั้งนี้ว่าต้องการใช้เวลากับครอบครัว รวมถึงไปทำธุรกิจส่วนตัวต่อไป แต่จะยังมีโอกาสกลับมาสตรีมเกมให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันต่อไปด้วย! พล หรือ sScary ได้โพสต์อธิบายเกี่ยวกับการรีไทร์ในครั้งนี้ไว้ว่า เส้นทางนักกีฬาอีสปอร์ตของผมได้จบลงแล้ว

โดยเหตุผลที่ผมตัดสินใจสิ้นสุดเส้นทางนักกีฬาอีสปอร์ตจริงๆก็ประกอบไปด้วยหลายๆเหตุผลเลยครับ แต่เหตุผลหลักๆคือ ผมพอใจและอิ่มเอมกับสิ่งที่ผมได้ทำไปทั้งหมดตลอดระยะเวลา 5 ปีของการเป็นนักกีฬามากๆ และชีวิตผมตอนนี้ ไม่ต้องวิ่งตามหาไขว่คว้าอะไรบางอย่างอย่างตรากตรําอีกต่อไปแล้ว ผมจึงอยากพักและอยากที่จะมีเวลากับครอบครัวมากขึ้น นำสิ่งที่ผมสร้างมาทั้งหมดมาดูแลคนที่ผมรักและมีความสุขกับพวกเขาในทุก ๆ วัน

ตลอดระยะเวลา 5 ปี มันเป็นเหมือนฝันเลยล่ะครับ ผมไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตของผมจะสามารถไปถึงจุดที่มีคนรู้จักมากมาย ได้ทำงานที่ตัวเองใฝ่ฝัน ได้คว้าแชมป์ถือถ้วยที่ประเทศของตัวเอง ที่มีผู้คนมากมายส่งเสียงเชียร์ให้กับผม ได้ทำงานที่ต่างประเทศ เดินทางไปเกือบทั่วโลก ได้เป็นตัวแทนของนักกีฬาไทยไปสร้างชื่อเสียงอย่างมากมาย และได้เป็นแบบอย่างให้กับใครหลาย ๆ คน

ขอขอบคุณทุกคนจริง ๆ ครับที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กติดเกมคนหนึ่ง ได้กลายเป็นผมในวันนี้ ขอบคุณทุกการสนับสนุน ทุกกำลังใจ มีหลายๆช่วงเวลาที่ผมจะจำไปตลอดชีวิตเลยล่ะ และขอบคุณทุกโอกาสที่มอบให้กับเด็กน้อยคนนี้ครับ

ในอนาคตหลังจากนี้ ผมก็คงจะมาไลฟ์นั่งเล่นเกมหรือทำอะไรที่ผมอยากทำให้ทุกคนดู อะไรที่ทุกคนไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น ยังคงเป็นหนึ่งใน Streamer ที่จะมานั่งพูดคุยกับทุกคนเหมือนเดิม และเป็นนักธุรกิจ นักลงทุนด้วย ไว้เจอกันในไลฟ์นะทุกคน รักทุกคนเสมอ

ท้ายที่สุด ขอขอบคุณพระเจ้าที่ประทานทุกอย่างเข้ามาในชีวิตของลูก ให้ลูกได้ครอบครอง ให้ลูกได้มีมากเกินพอ และให้ลูกได้พบกับสันติสุขที่แท้จริงบนโลกใบนี้ ฮาเลลูยา

ก่อนหน้านี้ sScary เป็นโปรเพลเยอร์ VALORANT ชาวไทยที่ได้เริ่มเข้าสู่วงการแข่งเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2020 โดยตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เขามีโอกาสได้ร่วมทีมกับ Overtime Esports, X10 Esports, X10 CRIT, XERXIA และปิดท้ายด้วย Bleed Esports แล้วเขายังเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่

โดยเขาให้เหตุผลในการวางมือในครั้งนี้ว่าต้องการใช้เวลากับครอบครัว รวมถึงไปทำธุรกิจส่วนตัวต่อไป แต่จะยังมีโอกาสกลับมาสตรีมเกมให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันต่อไป รวมถึงยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจแบรนด์ Reflex ของเขาเองอีกด้วย!

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: sScary