การแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนามสุดท้าย รอบแชมป์ออฟแชมป์ ปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว ที่ ม.อัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 4 ส.ค. โดยมี นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เป็นประธานปิดการแข่งขัน พร้อมด้วย น.ส.ทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ อุปนายกสมาคมฯ นำทีมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ผู้ตัดสิน นักกีฬา เจ้าหน้าที่ เข้าร่วมจำนวนมาก

ศึกคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนามสุดท้าย รอบแชมป์ออฟแชมป์ จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 2-4 ส.ค. โดยนำแชมป์และรองแชมป์ จากสนามแรก ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และสนามที่สอง ที่ จ.ขอนแก่น มาชิงชัย รวมถึงมีนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน ร่วมลงแข่งขันด้วย เพื่อหายอดฝีมือในแต่ละรุ่นทั้งประเภทริงสปอร์ต และทาทามิ มาเป็นตัวแทนทีมชาติไทย ไปลุยศึกใหญ่ในระดับนานาชาติ ทั้งคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์เอเชีย, คิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์โลก และกีฬาเอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ รวมถึงยังจะเป็นการเผยแพร่มาตรฐานเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งของประเทศไทย ต่อผู้ชมชาวต่างชาติ และพัฒนากีฬาคิกบ็อกซิ่งสู่ความเป็นเลิศ ต่อยอดเพื่อความสำเร็จในระดับอาชีพต่อไปในอนาคต

สรุปผลรอบแชมป์ออฟแชมป์ ที่น่าสนใจมีดังนี้ ประเภทเพอร์ฟอร์แมนซ์ ริงสปอร์ต รับถ้วยรางวัลพร้อมทุนการศึกษา 12,000 บาท ได้แก่ ทีม ส.เดชะพันธ์, ประเภท K1 ประชาชน 19-40 ปี ชาย น้ำหนักไม่เกิน 54 กก. แชมป์ เนติพงษ์ พรหมโคตร (SUPERMAN TEAM), K1 ประชาชน 19-40 ปี ชาย น้ำหนักไม่เกิน 63.5 กก. แชมป์ ธนพนธ์ ขนุนอ่อน (ค่ายมวย พรัญชัย), K1 ประชาชน 19-40 ปี ชาย น้ำหนักไม่เกิน 75 กก. แชมป์ อารีเพ็ญ กิติยามาตย์ (KICK BOXING SONGKHLA), K1 ประชาชน 19-40 ปี หญิง น้ำหนักไม่เกิน 52 กก. แชมป์ สุวภัทร นพรัตน์ (มรภ.สุราษฎร์ธานี), K1 เยาวชน 17-18 ปี ชาย น้ำหนักไม่เกิน 63.5 กก. แชมป์ ธนวัฒน์ สมสง่า (ค่ายมวยศิษย์บอลสกล), K1 เยาวชน 17-18 ปี หญิง น้ำหนักไม่เกิน 52 กก. แชมป์ วรปภา สีหามาศ (โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา)

ผู้ที่สนใจสามารถดูผลการแข่งขันได้ที่เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย Kickboxing Association of Thailand

บิ๊กสมชาย นายสมชาย พูลสวัสดิ์ เปิดเผยว่า สมาคมฯ เล็งเห็นความสำคัญการเติบโตของวงการคิกบ็อกซิ่งในประเทศไทย ไม่เพียงแต่มวยไทย ที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สำหรับศึกคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024 ที่จบลงไป ภาพรวมพอใจมาตรฐานการจัดการแข่งขัน มาตรฐานนักกีฬาที่เข้าร่วมอย่างมาก ถือเป็นความสำเร็จมาก เราได้สร้างกระแสกีฬาคิกบ็อกซิ่งในเมืองไทย และยังได้ตัวนักกีฬาที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาได้มาเข้าแคมป์ทีมชาติเพิ่มเติม ทั้งประเภททาทามิอีก 5-6 คน ส่วนประเภทริง สปอร์ต อีก 10 คน

หลังจากนี้จะเรียกนักกีฬาทั้งหมดมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมทีมชาติ เพื่อเตรียมตัวแข่งขันในระดับนานาชาติ 2 รายการ คือ อุซเบกิสถาน คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์คัพ ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 24-29 ก.ย. 67 ต่อด้วยศึกคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์เอเชีย เอเชียน แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 6-13 ต.ค. 67 จากนั้นจะเป็นการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 21-30 พ.ย. 67 และกีฬาเวิลด์เกมส์ ในปีหน้า

เรามีเป้าหมายไว้อยู่แล้วว่าในศึกเอเชียนอินดอร์ฯ ว่าจาก 10 รุ่น ที่ชิงชัยแบ่งเป็น ชาย 7 รุ่น หญิง 3 รุ่นนั้น เราต้องทำให้ได้กี่เหรียญทอง เพราะแข่งในเมืองไทยด้วย ฉะนั้นเราต้องเตรียมนักกีฬาให้มีความพร้อมมากที่สุด ขณะเดียวกันเรื่องของการพัฒนากีฬาคิกบ็อกซิ่งในประเทศไทย เราพยายามที่จะขยายฐานเข้าไปยังสถานศึกษาระดับมัธยม และมหาวิทยาลัย เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างนักกีฬาตั้งแต่ระดับยุวชน เยาวชนขึ้นมา อีกประการที่จะลืมไม่ได้เลยคือการสร้างผู้ตัดสิน ซึ่งทางสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) ให้ความสนใจที่จะมาสนับสนุนเราในการพัฒนาเรื่องของผู้ตัดสินหลังจากนี้อีกด้วย บิ๊กสมชาย กล่าว