ตามที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงกรณีเงินสนับสนุนของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่จะให้ประเทศต่างๆ ในโครงการ ฟีฟ่า 3.0 นั้น จากการได้หารือฟีฟ่า ได้รับข้อมูลว่าสามารถเอาเงินราว 100 ล้านบาท มาทำสเตเดียมได้ ขณะเดียวกัน ฟีฟ่าแนะนำให้เอาเงินก้อนนี้มาปรับปรุง สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ พร้อมระบุว่า เรื่องนี้สมาคมบอลฯ ไปพบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เป็นเจ้าของสถานที่แล้ว และต้องคุยกับอธิบดีกรมศิลปากรด้วย เพราะอีก 12 ปี สนามศุภชลาศัย จะเป็นโบราณสถาน ถึงตรงนั้น จะอยู่ในการดูแลของกรมศิลปากรด้วย

ทั้งนี้ มาดามแป้ง กล่าวด้วยว่า การนำเงินฟีฟ่ามาใช้ ต้องมีสัญญาใช้งานสถานที่นั้นๆ 20 ปี เรื่องนี้คุยจุฬาฯ แล้วหนึ่งรอบ ตอนนี้ศุภชลาศัย จุ 1.8 หมื่นคน ต้องดูว่าถ้าทำใหม่จะความจุเท่าไหร่ ขณะเดียวกัน การที่สนามอยู่ใจกลางเมือง ทำให้เดินทางสะดวกสบาย แต่ยังไม่รู้ว่าการรีโนเวทใช้งบเท่าไหร่

กีฬาเดลินิวส์ ได้สอบถามข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงของ กรมพลศึกษา ที่ตอนนี้ยังใช้พื้นที่และดูแลสนามศุภชลาศัย ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า ตนเองได้ทราบเรื่องดังกล่าวเหมือนกัน จากข่าวที่ปรากฏจากสื่อต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรมพลศึกษาเองนั้น ยังไม่ได้รับการประสานงานเข้ามาจากฝ่ายใด ทั้ง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งในฐานะข้าราชการแล้ว หากมีคำสั่งใดๆ มาก็พร้อมปฏิบัติตามแน่นอน

ส่วนเรื่องแผนการที่อาจจะนำงบประมาณฟีฟ่า มารีโนเวท สนามศุภชลาศัย นั้น แหล่งข่าวระบุว่า ในอีก 12 ปี สนามศุภชลาศัย จะขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ถึงตรงนั้นก็จะเป็นส่วนรับผิดชอบของ กรมศิลปากร ขณะเดียวกัน ส่วนตัวมองว่าการปรับปรุงสนามศุภชลาศัย หากจะทำใหม่แบบพลิกโฉม คงทำไม่ได้เยอะขนาดนั้น เพราะสนามศุภชลาศัย สร้างมาเกือบ 90 ปีแล้ว โครงสร้างเดิมเก่ามาก ถ้าจะปรับก็อาจจะแค่ส่วนนอก เช่นหลังคา, ห้องน้ำ หรือทำสถานที่ให้สวยงาม แต่หากการเปลี่ยนโครงสร้างไปเลยอาจจะลำบาก

แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานที่ตรงที่ตั้งสนามศุภชลาศัยแห่งนี้ ตอนนี้คำสั่งศาลคือเป็นของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจะให้กรมพลศึกษาย้ายออกไป แต่สิ่งที่ กรมพลศึกษาเป็นห่วงคือการดูแลสนามกีฬาต่างๆ ในพื้นที่นี้ เกรงว่าจะไม่มีสนามกีฬาสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ที่จะมีการแข่งขันต่างๆ โดยเฉพาะกีฬาระดับนักเรียน ที่สนามกีฬาแห่งชาติปทุมวัน.