เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 1 บ้านเก่าวิทยา จ.กาญจนบุรี นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายก อบจ.กาญจนบุรี ประธานสโมสรฟุตบอล พลังกาญจน์ เอฟซี พร้อมด้วยนายวิษณุ บุญรัตน์ ที่ปรึกษานายก อบจ. ร่วมกันเซ็นสัญญานักกีฬาฟุตบอล ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 1 กับสโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี ประกอบด้วย นายกมลเทพ พูมมาทอง ตำแหน่งผู้รักษาประตู นายเกรียงไกร เฮงจินดา ตำแหน่งกองหลัง และนายบดินทร์ พรหมมา ตำแหน่งกองหน้า พร้อมกับมอบเงินสัญญารายเดือนให้กับนักฟุตบอลทั้ง 3 คนด้วย

นพ.ประวัติ กล่าวกับ ทีมข่าวศูนย์เดลินิวส์ ภาคตะวันตก ว่าตนสวมหมวกหลายใบ ทั้งหมวกนายก อบจ.กาญจนบุรี หมวกที่เป็นพ่อแม่ และหมวกที่เป็นประธานสโมสรฟุตบอลพลังกาญจน์ เอฟซี ถือว่าเป็นทีมการเมือง และเป็นความตั้งใจของผู้บริหาร ชื่อทีมตั้งมาจากทีมการเมืองอีกด้วย คือ พลังกาญจน์ พลังของคนกาญจนบุรี ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการทำอะไรที่มีความสามัคคีขนาดนี้ และทีมฟุตบอลที่เคยมีของ จ.กาญจนบุรี ก็ไปไม่รอด ทั้งโดนยุบ ล้มหายตายจากไป

นพ.ประวัติ กล่าวต่อว่า ทำไมกาญจนบุรีถึงไม่ทีมฟุตบอล เป็นคำถามมาโดยตลอด จริงๆ ฟุตบอลของเราเก่งมากๆ หลายคน ที่ติดทีมชาติ เป็นสิ่งที่ตอบคนในจังหวัดไม่ได้ว่าทำไม เด็กเราไม่มีที่เล่น ไม่มีเวทีให้แสดงออก ได้ประกอบอาชีพ เพราะวันนี้ฟุตบอลถือว่าเป็นการประกอบอาชีพ ขณะนี้นักฟตุบอลคนที่มีรายได้มากที่สุด คือ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ มีรายได้เดือนละ 1,800,000 บาท ถือว่าเยอะมาก ส่วนนักฟตุบอลอื่นก็ลดหลั่นลงมา แต่ก็หลักแสนทุกคน ตนว่าดีกว่าเป็นนายก อบจ. เงินเดือน 6 หมื่นบาท ยังไม่พอจ่ายค่าซอง ค่าพวงหรีด ฉะนั้นนักฟตุบอลที่มีความสามารถพอก็จะเลี้ยงดูตัวเองได้ ทีมพลังกาญจน์จึงเลือกมาทำฟุตบอล เพราะเป็นกีฬามหาชน กีฬาอันดับ 1 และวอลเลย์บอลอันดับ 2 ของเรา ใช้ชื่อ พลังกาญจน์ วีซี เป็นสโมสรวอลเลย์บอลของชาวกาญจนบุรี ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น เป้าหมายคือเข้าไปเล่นในวอลเลย์บอลไทยลีก

นพ.ประวัติ ยังกล่าวว่า การทำทีมต้องเริ่มต้นที่เด็กๆ ตนพาทีมไปแข่งหลายจังหวัด แต่ละจังหวัดจะมีการทำทีมที่แตกต่างกันไป บางจังหวัดมี อคาเดมี บางจังหวัดไม่มี ดังนั้น จ.กาญจนบุรี จึงใช้โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 1 บ้านเก่าวิทยา เป็นสารตั้งต้นของการปั้นนักกีฬาขึ้นมาป้อนสู่สโมสรอาชีพของจังหวัดเอง คือ พลังกาญจน์ เอฟซี เชื่อว่าเด็กเราเก่งและมีความสามารถพอ และสามารถทำเป็นอาชีพได้ จึงได้มีการทำสัญญากับนักเตะทั้ง 3 คน ที่มีโอกาสที่จะขึ้นสู่ลีกอาชีพของฟุตบอลไปให้ได้ และยังเป็นตัวอย่างให้น้องได้ขยับตัวขึ้นมา

ล่าสุด ทีมพลังกาญจน์ เอฟซี บุกไปเยือน อยุธยา เอฟซี และสามารถนำชัยชนะกลับมาได้ 2-1 ทำให้ขึ้นอยู่อันดับ 6 ซึ่งอยู่ในโซนเพลย์ออฟ ตนคิดว่าเลก 2 ทีมพลังกาญจน์ น่าจะขึ้นสู่ไทยลีก 1 ได้ อันนี้เป็นความตั้งใจของทีมผู้บริหาร ประกอบกับมีเม็ดเงินเพียงพอ รวมทั้งความสามัคคีกันในจังหวัดอีกด้วย นพ.ประวัติ กล่าว