นักกีฬาอาชีพอาจจะมีวิธีดูแลตัวเองที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเพิ่มเติมหลังจาการฝึกซ้อม ดูแลเรื่องอาหารการกิน หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้สุขภาพของพวกเขาดีขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมา นักกีฬาฟุตบอลอาชีพระดับโลกหลายคน อย่าง ลีโอเนล เมสซี, ลุยส์ ซัวเรซ, ดิเอโก้ มาราโดน่า, เซร์ฆิโอ อาเกวโร, เนย์มาร์ หรือแม้กระทั่ง ดาร์วิน นูนเญซ มักจะถือแก้วน้ำกลม ๆ มีลักษณะคล้ายกับโฮ่งขนาดเล็กติดตัวเวลามาสนาม หรือแม้จะช่วงเวลาที่สำคัญอย่างการฉลองแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2022 ของ เมสซี ยังต้องมีแก้วใบนี้ร่วมเฟรม เรียกได้ว่าเป็นแก้วคู่ใจก็ว่าได้
และหลายคนอาจจะสงสัยกันว่าเครื่องดื่มในแก้วนั้นคืออะไรกันแน่

คลายความสงสัย เครื่องดื่มที่อยู่ในแก้วกลม ๆ นั้นคือ ชามาเต้ ที่มีพื้นเพมาจากอเมริกาใต้ ซึ่งทำมาจาก ใบเยร์บา มาเต้ มีรสขม มักจะถูกเปรียบเทียบรสชาติ ระหว่างชาเขียวกับชาเอิร์ลเกรย์ เครื่องดื่มชนิดนี้อุดมไปด้วยคาเฟอีน และส่วนใหญ่จะได้รับความนิยมย่างมากในภูมิภาคอเมริกาใต้ ทั้งในอุรุกวัย, อาร์เจนตินา, ปารากวัย และบราซิล

และเมื่อนักเตะอเมริกาใต้ ไปค้าแข้งแถวฝั่งยุโรป ก็มักจะชักชวนให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับเจ้าชามาเต้นี้ ขณะที่ ทางด้าน เอริก ดายเออร์
นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ อดีตแข้ง ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเขาเองก็เคยได้รับการแนะนำจากเพื่อนร่วมทีมที่เป็นชาวอเมริกาใต้ถึงเครื่องดื่มชนิดนี้ และนั่นหมายความว่า เจ้าชาชนิดนี้ ไม่ได้อยู่ที่กลุ่มค้าแข้งอเมริกาใต้ แต่ยังอยู่ในห้องแต่งตัวของลีกอังกฤษอีกด้วย

จุดเด่นสำหรับชามาเต้ เป็นเครื่องดื่มที่มีวิตามิน B และ C สูง ช่วยเรื่องระบบการเผาผลาญของนักกีฬา จะช่วยให้ตัวนักกีฬามีสมาธิในการแข่งขันมากขึ้น และที่นักเตะชาวอเมริกาใต้ชอบดื่มชามาเต้นั้นก็เพราะว่าชาตัวนี้ มีสารต้านอนุมูลอิสระของโพลีฟีนอล และมีประโยชน์สำหรับผู้ต้องการลดน้ำหนักแบบเดียวกับชาเขียว

ข้อดีของชามาเต้ ยังส่งผลดีมาก ๆ กับผู็ป่วยที่มีความผิดปกติทางจิตประสาท และอารมณ์ เช่น ผู้ที่เคยใช้สารเสพติด ผู้ที่เป็นภาวะซึมเศร้า เป็นโรคสมาธิสั้น หรือมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ

และข้อเสียของเจ้าชามาเต้ คือ อาจส่งผลให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย รู้สึกกังวล เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ท้องเสีย หรือวิตกกังวลได้ เนื่องจากมีส่วนผสมของคาเฟอีน นอกจากนี้ หากดื่มชามาเต้ปริมาณมากติดต่อกันเป็นเวลานาน ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งในช่องปาก มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร

หากใครที่ต้องการอยากลองดื่มชามาเต้ ต้องพึงระวัง หากมีโรคประจำตัว อาทิ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคเลือด หรือโรควิตกกังวล รวมไปถึงบุคคลที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบ ต่อตัวอ่อน และทารกได้ ควรจะปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความปลอดภัยในการดื่มชามาเต้