โค้ชอ้น รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กุนซือการท่าเรือ เอฟซี ตั้งความหวังไทยลีก 2024-25 ในเลกที่ 2 อยู่ที่การเข้าใกล้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้มากที่สุด

ไทยลีก เลกแรก มีคู่ตกค้าง 2 คู่ และ 1 คู่ เตะไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 68 ที่แพท สเตเดียม การท่าเรือ เอฟซี เปิดบ้านชนะ ลำพูน วอริเออร์ 2-1 โดย ท่าเรือ ได้ 2 ประตู จากจุดโทษของ ลอนซานา ดูมบูญา ยิงเข้าไปในช่วงทดเวลาครึ่งแรก หลังผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วมองว่า ลำพูน มีแฮนด์บอล กับอีกลูกจากการโหม่งของ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ส่วน ลำพูน ตีไข่แตกจากการยิงสุดสวยของ โมฮัมหมัด ออสมัน นาทีที่ 72

การท่าเรือ จบเลกแรก ครบ 15 นัด ด้วยการมี 29 แต้ม อยู่อันดับ 3 ตามหลัง จ่าฝูง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มี 39 แต้ม และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มี 30 แต้ม ส่วน ลำพูน ที่ 11 มี 17 แต้ม มากกว่าโซนตกชั้น 3 แต้ม

หลังเกม โค้ชอ้น กล่าวว่า สำหรับเลกแรก มีช่วงเวลาที่ดี แต่ก่อนพักปีใหม่ ก็มีช่วงที่แย่ ส่วนการเสริมทีม ไม่ได้เสียใจที่ยังไม่มีตัวเพิ่ม เพราะแต่เริ่มฤดูกาล ตนและลูกทีมมั่นใจในตัวเอง ถ้าไม่มีคนมาเพิ่มก็เชื่อมั่น ไม่มีอะไรมั่นใจว่าเปลี่ยนมาเพิ่มแล้วดีขึ้น ที่ผ่านมาบางเกมน่าชนะ แต่พลาด ก็ไปแก้ไขช่วงพักเบรก ส่วนการเสริมทัพนั้น ตนไม่ทราบว่าจะมีหรือไม่ ต้องรอคุยผู้บริหาร ยังเหลือเวลาถึงวันที่17 ม.ค.68

เมื่อถามถึงเป้าหมายเลก 2 โค้ชอ้น กล่าวว่า อยากขยับแต้มตัวเอง ทำให้ดีที่สุด เข้าใกล้บุรีรัมย์เยอะสุดเท่าที่ทำได้

พวกเราเคยหวังเยอะกว่านี้ แต่วันนี้เหมือนไกล แต่ยังไม่หมดหวัง พยายามทำแต้มให้ใกล้ที่สุด โค้ชอ้น กล่าว

ส่วน อเล็กซานเดร กามา โค้ชลำพูน วอริเออร์ กล่าวว่า ผิดหวัง เสียใจกับผลลัพธ์ เพราะไม่ได้คาดหวัง ซ้อมมาดีมาก 1 เดือน ครึ่งแรกก็โอกาสดีกว่า แต่ครึ่งหลังยอมรับท่าเรือเล่นดีกว่า พยายามสั่งบุกมากขึ้น

กามา ยังกล่าวด้วยว่า มองว่า มีตัวกำหนดผลแข่งขัน ที่ไม่ใช่นักเตะในสนาม แมตช์หน้าหรือแมตช์ต่อไป ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะการแข่งขันสิ่งที่สำคัญคือนักเตะในสนาม แข่งกัน 11-11 ไม่อยากให้คนภายนอกมาคอนโทรลผลแข่งขัน ไม่อยากให้เป็น 11-13, 11-14 คน เรื่องนี้ไม่โอเค ยอมรับว่าเสียใจกับผลแข่งขัน แต่ไม่เอาเป็นข้ออ้าง.