การแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอน บางแสน 21 ประจำปี 2024 เมื่อช่วงเข้าวันที่ 15 ธ.ค.67 ปล่อยตัวบริเวณหน้าโรงแรมบางแสนเฮอริเทจ นักวิ่งกว่า 12,000 คนเข้าร่วมแข่งขัน โอเวอร์ออลฝ่ายชาย เบียดกันสนุก แชมป์ นิเบร็ท เมลัก จากเอธิโอเปีย เวลา 1.02.32 ชั่วโมง เฉือนดีกรีแชมป์ลอนดอนมาราธอน 2024 อย่าง อเล็กซานเดอร์ มันเยา จากเคนยา เวลา 1.02.34 ชั่วโมง และอันดับ 3 จอฟฟรี โตโรติช คิปชุมบา จากเคนยา 1.02.36 ชั่วโมง

ส่วนโอเวอร์ออลฝ่ายหญิง แชมป์ วินฟริดา โมเซติ จากเคนยา 1.10.01 ชั่วโมง ตามด้วย รีเบ็กก้า เชลันกัต จากยูกันดา 1.10.34 ชั่วโมง และ โรสแมรี่ วันจิรุ โมนิกา จากเคนยา เวลา 1.10.53 ชั่วโมง

ด้านนักวิ่งไทย ครูขม อรอนงค์ วงศร เข้าเส้นชัยทำลายสถิติสนามต่อเนื่อง หลังจากเพิ่งทำลายสถิติสนามบางแสน42 ชลบุรีมาราธอน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มาบางแสน 21 เธอทำเวลา 1.20.06 ชั่วโมง ครองแชมป์นักวิ่งหญิงชาวไทย พร้อมคว้าเงินรางวัลพิเศษจาก นายกตุ้ย นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข 100,000 บาท เท่ากับว่า ผลงาน บางแสน 42-บางแสน 21 ที่เธอทำลายสถิติสนาม รับไป 2 แสนบาท ในเวลาไม่ถึง 1 เดือนครึ่ง

ด้าน ณัฐวุฒิ อินนุ่ม แชมป์ชายไทย เวลา 1.11.25 ชั่วโมง ซึ่งในบางแสน 42 ณัฐวุฒิ ก็แชมป์ชายไทยเช่นกัน

นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด และ Race Director งานวิ่งบางแสน21 กล่าวว่า ภาพรวมการจัดงานวันนี้ถือว่าสำเร็จลุล่วงไปตามแผน ปีนี้มีนักวิ่งต่างชาติเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 38 ประเทศ ทำให้การแข่งขันคึกคัก เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม และด้วยความตั้งใจฝึกซ้อมกันมา บวกกับสภาพอากาศที่เป็นใจ ส่งผลให้สถิติการแข่งขันของบางแสน21 มีการพัฒนาสถิติที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งทำลายสถิติสนามจากนักวิ่งหญิงไทย หรือ สถิติ Top 100 ของนักวิ่งชาย-หญิง ที่เข้าเส้นชัยเร็วกว่าสถิติปีที่แล้ว

ในฐานะผู้จัดการแข่งขันขอขอบคุณนักวิ่งทุกคนที่ให้เกียรติร่วมวิ่งกับเรามาถึง 10 ปี นักวิ่งเปรียบเสมือนเพื่อนรักของเราและต้องขอบคุณสปอนเซอร์ ผู้สนับสนุนทุกรายที่มีส่วนช่วยเหลือมาโดยตลอด จนวันนี้งานบางแสน21 สามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นงานวิ่งระดับโลกได้สำเร็จ ด้วยมาตรฐานระดับสูงสุด World Athletics Platinum Label Road Race 1 ใน 15 งานของโลก ถือว่าเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาให้กับวงการวิ่งของไทย และคาดว่างานบางแสน21 จะเป็นต้นแบบให้มีการจัดงานวิ่งดีๆ ได้มาตรฐานเช่นเดียวกับที่งานบางแสน21 ทำสำเร็จแล้ว เราคาดหวังว่าในอนาคตประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในมหาอำนาจวงการวิ่งมาราธอนของโลก